วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

Encapsulation ในเครื่องสำอาง

สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่สนใจในเรื่องความสวยความงามทุกท่าน**

ผู้เขียน Esther (นามปากกา) อยู่ในแวดวงเครื่องสำอาง และชอบใช้เวลาว่างในการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง สารสำคัญ (Active ingredient) ที่ช่วยปกป้องสุขภาพผิว ลดปัญหาสิว ฝ้า จุดดำด่าง ลดริ้วรอย ต่างๆ นานา และสารพันเทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่องกับเครื่องสำอางอยู่เป็นกิจวัตร 

ทุกวันนี้ Esther สังเกตว่า ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางยี่ห้อ Counter Brand ต่างๆ มีการนำเทคโนโลยี Encapsulation มาใช้กันอย่างกว้างขวาง ทั้งไทยและต่างประเทศ วันนี้จึงได้ท่องเที่ยวดูข้อมูลในห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลก (Internet) เกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้ ซึ่งขยายขอบเขตความรู้ของ Esther อย่างมากมาย ไม่อาจนิ่งดูดายที่จะบอกกล่าวให้เพื่อนๆ ผู้อ่านได้ทราบ เข้าใจ และก้าวทันวัตกรรมความงาม เพื่อเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ทรงประสิทธิภาพ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า...ของทุกๆ คน
Encapsulation คืออะไร ?

Encapsulation หมายถึง กระบวนการที่สารหรือส่วนผสมของสารถูกเคลือบหรือห่อหุ้มด้วยสารชนิดอื่น ซึ่งสารที่ถูกเคลือบหรือถูกห่อหุ้มไว้ อาจเป็นอนุภาคของแข็ง ของเหลว หรือก๊าซ เรียกว่า core material หรือ internal phase ส่วนสารที่นำมาเคลือบหรือห่อหุ้ม เรียกว่า wall material, carrier, membrane, shell หรือ coating มีบทบาทในการปกป้องสารจากการสลายตัว ด้วยเหตุปัจจัยต่างๆ  

ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ประโยชน์ เพื่อปกป้องสารออกฤทธิ์สำคัญ (Active ingredient) ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ เช่น ยา, อาหารและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร, ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน, ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เครื่องสำอางและเวชสำอาง


ทำไมต้องเป็น Encapsulation ?
เนื่องจากสารออกฤทธิ์ (Active ingredients) ที่สำคัญในเครื่องสำอาง โดยเฉพาะสารจากแหล่งธรรมชาติที่เราปรารถนา แม้มีสรรพคุณดีเด่น แต่มักสลายตัวง่ายเมื่อถูกแสงหรือความร้อน การออกฤทธิ์ไม่นาน   หรือสารบางตัวการดูดซึมผ่านผิวหนังไม่ดี ทำให้เมื่อเราใช้ผลิตภัณฑ์ กว่าสิวจะหาย ฝ้า ริ้วรอยจะจาง ก็ต้องใช้เวลานาน ดังนั้น เทคโนโลยี Encapsulation ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง (Cosmetic Product) หรือเวชสำอาง (Cosmeceutical Product) จึงถูกออกมาเพื่อเอาชนะปัญหาดังกล่าว นั่นคือ เทคโนโลยี Encapsulation จะช่วยทำให้สารออกฤทธิ์มีความคงตัวมากขึ้น ลดการเกิดอันตรกิริยากับสารอื่นๆในสูตรตำรับ ปกป้องสารออกฤทธิ์จากแสงและ/หรือปฏิกิริยาออกซิเดชัน ยืดอายุการเก็บรักษา ลดความระคายเคืองของสารออกฤทธิ์บางชนิด และสามารถควบคุมการปลดปล่อยสารออกฤทธิ์ได้ นอกจากนี้เทคนิคการห่อหุ้มสารบางเทคนิค ยังสามารถเป็นระบบนำส่งสารออกฤทธิ์ (delivery system) ที่มีประสิทธิภาพได้ด้วย ซึ่งทำให้สารออกฤทธิ์สำคัญถูกพาไปยังเซลล์เป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น


ตัวอย่าง Encapsulation แบบ Microcapsule และการปลดปล่อยสารสำคัญ 
ซึ่งการปลดปล่อยสารจะเกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยทางสภาพแวดล้อม ได้แก่ pH (ในเครื่องสำอางมักจะเกิดจาก pH), อุณหภูมิ, ความชื้น, ความดัน เป็นต้น  โดยเปลือกที่ห่อหุ้ม (wall material) จะเกิดการยุบตัว (collapse) และปลดปล่อยสารออกฤทธิ์ซึ่งเป็น core material ออกมา (www.microencapsulation.swri.org)



ปัจจุบันมีการพัฒนาถุงห่อหุ้มสารสำคัญให้มีขนาดเล็กในระดับนาโนเมตรหรือหนึ่งในพันล้านเมตร เรียกว่า Nanovesicle เพื่อห่อหุ้มสารออกฤทธิ์สาคัญ (encapsulation) และเป็นระบบนำส่งสารออกฤทธิ์ (delivery system) ให้ไปถึงเซลล์เป้าหมายได้ดีขึ้น โดยถุงอนุภาคขนาดนาโนนี้มีหลายชนิด แตกต่างกันที่ชนิดและส่วนประกอบของสารที่ทำหน้าที่เป็นเปลือกหุ้ม ตัวอย่างถุงอนุภาคขนาดนาโนที่เป็นที่รู้จักกันดี อาทิ เช่น 

Liposome (ลิโปโซม) เป็นถุงอนุภาคทรงกลมที่เกิดจากฟอสโฟลิพิด (phospholipid) มาเรียงต่อกันเป็นผนังสองชั้น (lipid bilayer) โดยหันส่วนที่ไม่ชอบน้ำอยู่ด้านใน (hydrophobic) และหันส่วนที่ชอบน้ำออกมาด้านนอก (hydrophilic) จึงสามารถเก็บสารออกฤทธิ์ทั้งกลุ่มที่ชอบน้ำและไม่ชอบน้ำไว้ภายในถุงอนุภาคได้ ข้อดีคือ เพิ่มการดูดซึมของสารที่เก็บกักอยู่ภายในเข้าสู่ผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความคงตัว และระยะเวลาออกฤทธิ์ของสารที่เก็บกักอยู่ภายใน ทดแทนไขมันบนผิวหนัง ช่วยเก็บกักน้ำใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวชุ่มชื้น และย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม 

ตัวอย่าง ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในท้องตลาดที่มีไลโปโซม ได้แก่ GPO curmin creamOriental Princess Hydra Intense Complex Intensive Repleninshing Night GelL’Oréal Efect du Soleil, Nikko Aquasome LA เป็นต้น


Niosome (นีโอโซม) เป็นถุงอนุภาคทรงกลมที่เกิดจากสารลดแรงตึงผิวชนิดไม่มีประจุ มาเรียงต่อกันเป็นผนังสองชั้น เหมือนกับลิโปโซม นีโอโซมถูกพัฒนาขึ้นเพื่อมาทดแทนลิโปโซม โดยมีคุณสมบัติในการปกป้องสารออกฤทธิ์ เพิ่มประสิทธิภาพสารออกฤทธิ์โดยการนำส่งไปยังเป้าหมายได้ดีขึ้น เพิ่มความเข้ากันกับสารอื่น และมีข้อดีเหนือกว่าลิโปโซม คือ สามารถดูดซึมลงผิวได้ดีกว่า และมีความคงตัวมากกว่า นีโอโซมมีคุณสมบัติในการนำส่งสารเข้าสู่รูขุมขนและเส้นผมได้ดี เนื่องจากมีขนาดอนุภาคที่เหมาะสมกับรูเปิดของรูขุมขน

ตัวอย่าง ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในท้องตลาดที่มีนีโอโซม ได้แก่ LANCÔME NIOSÔME plus ช่วยลดริ้วรอย เป็นต้น


การพัฒนายังมีอย่างต่อเนื่อง Elastic Nanovesicle คือ ถุงอนุภาคขนาดนาโนที่มีความยืดหยุ่นสูง ที่พัฒนาต่อยอดมาจากถุงอนุภาคขนาดนาโนแบบดั้งเดิม เพื่อให้สามารถแทรกตัวผ่านช่องว่างระหว่างเซลล์ที่มีขนาดเล็กกว่าขนาดของถุงอนุภาคได้ โดยที่ถุงอนุภาคไม่แตกหรือเสียสภาพไปเสียก่อน ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมสารออกฤทธิ์เข้าสู่ผิวหนังชั้นลึกได้มากขึ้น เกิดเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด สำหรับผลิตภัณฑ์เวชสำอางในการนำส่งสารออกฤทธิ์ให้ซึมเข้าผิวหนังได้ดียิ่งขึ้น 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น